ช่วยกันแชร์ครับ ประชาชนอย่างเราจะได้หมดเวรหม...

ช่วยกันแชร์ครับ ประชาชนอย่างเราจะได้หมดเวรหมดกรรม กับผู้ถือกฏหมายที่ใช้กฏหมายอย่างไม่เป็นธรรมและเอาเปรียบประชาชนครับ เปลียนท่อ ไม่ใช้การดัดแปลงสภาพรถครับ แต่กฏหมายระบุว่าต้องดังไม่เกิน 95 เดซิเบล
ถ้าขับรถไปเจอด่านแล้วพี่ตำรุยบอกว่าท่อเสียงดังแต่ที่ด่านไม่มีเครื่องวัด ถ้าเค้าอยากเขียนใบสั่งก็ปล่อยเค้าเขียนไปครับ ให้ถ่ายรูปสถานที่ตั้งด่านไว้เป็นหลักฐานครับว่าไม่มีเครื่องวัดเสียง แล้วแจ้งเพจนี้ได้เลย เพราะเท่ากับพี่ตำรุยกำลังทำผิดกฎหมายครับ หูพี่ตำรุยไม่สามารถเอามาวัดว่าเราผิดได้ครับ
และพี่ตำรุยไม่มีสิทธิยึดรถเราไปครับ ในข้อหาดัดแปลงสภาพรถครับ สงสัยอะไรสอบถามทางเพจนี้ได้เลยครับ ถึงเวลาที่เราจะหลุดพ้นจากวงจรอุบาตแบบนี้ซักที #ดุลพินิจเจ้าพนักงานป่ะล่ะ

เรียนพี่น้องประชาชนและสมาชิกทุกท่าน สรุป การที่ตำรวจจราจรสน.โชคชัย บังคับใช้กฎหมาย ตามพรบ.รถยนต์ 2522 ในข้อหาดัดแปลงสภาพรถ (การเปลี่ยนท่อไอเสีย) ตามมาตรา 14 กับน้องเบนซ์ ซึ่งชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้รับเรื่องร้องเรียน (ตามภาพที่ 1) จึงเข้าให้การช่วยเหลือน้องเบนซ์ในด้านกฎหมาย โดยนำน้องเบนซ์เข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากตำรวจจราจร และให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อพนักงานสอบสวนสน.โชคชัย (ตามภาพที่ 2)

ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ให้ความยุติธรรม โดยให้มีการทดสอบเสียงของท่อไอเสีย ตามเอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2 แห่ง (ตามภาพ 3) คือ

1. บก.จร.
2. กรมการขนส่งทางบก

จาก Facebook Live ของทางชมรมฯ ก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของพี่น้องประชาชน ทั้งที่บก.จร. (ตามภาพที่ 4) และที่กรมการขนส่งทางบก (ตามภาพที่ 5) โดยผลจากการทดสอบ ก็ปรากฎว่า รถจักรยานยนต์ของน้องเบนซ์ ผ่านการทดสอบความดังท่อไอเสีย และได้รับการยืนยันจากกรมการขนส่งทางบกว่า การเปลี่ยนท่อไอเสีย ไม่ต้องขออนุญาตจากนายทะเบียน แต่เสียงท่อต้องดังไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ และได้รับการยืนยันจากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ท่อไอเสียที่ผู้บริโภคซื้อมาเปลี่ยน ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะตามการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ของสมอ. จะต้องเป็นผู้ผลิตและนำเข้าเท่านั้น ที่ไม่มีมอก.

ดังนั้น ในมาตรา 12 พรบ.รถยนต์ ท่อไอเสียถือเป็นอุปกรณ์ส่วนควบ และมาตรา 14 ดัดแปลงสภาพรถ คือเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้ง 2 มาตรานี้ เป็นอำนาจของนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก ตามพรบ.รถยนต์ เป็นผู้ชี้ขาด

ที่ผ่านมา ตำรวจจราจรเป็นผู้อ้าง ใช้ดุลพินิจเกินกว่ากฎหมาย ซึ่งเป็นเวรกรรมของประชาชน ดังนั้น ทางชมรมฯ ขอประกาศเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวสองล้อ หรือสี่ล้อ หากท่านถูกตำรวจจราจรออกใบสั่ง โดยไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนมายังชมรมฯ ได้ ทางชมรมฯ จะให้การช่วยเหลือท่านในทางกฎหมายฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อนำคดีทุกคดีขึ้นสู่ศาล เพื่อให้ศาลพิจารณาคดีแทนตำรวจจราจร ไม่ต้องคิดว่าเราจะต้องเสียเวลาฝ่ายเดียว ตำรวจจราจรก็จะต้องเสียเวลามาขึ้นศาลเช่นเดียวกัน หากศาลตัดสินว่าเราไม่ผิด ตำรวจจราจรจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จต่อศาล อันเป็นความผิดตาม ป.อาญา ม.157และป.อาญา ม.177

ถ้าต่อไปนี้ คดีจราจรทุกคดีขึ้นสู่ศาลหมด พนักงานสอบสวนจะต้องด่าตำรวจจราจรแน่นอนว่า ก่อนจะแจ้งข้อหาประชาชน ให้ดูก่อนว่าประชาชนทำผิดจริงหรือไม่ มิเช่นนั้น พนักงานสอบสวนต้องมานั่งทำสำนวนคดีจราจรเพิ่มขึ้นอีก คิดดูเอาเองครับ

---